วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
แจกสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ #
#แจกสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ #แชร์เก็บไว้เลย
กุ้ง หอย ปู ปลา จิ้มเมื่อไหร่แซ่บเมื่อนั้น
ส่วนผสม
กระเทียมกลีบกลางและเล็กปอกเปลือก 35 กลีบ
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดง 10 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 20-25 เม็ด
รากผักชี 4 ราก
เนื้อสับปะรด 1/3 ถ้วย
น้ำปลา 25 กรัม
น้ำมะนาว 60 กรัม
น้ำตาลทราย 25 กรัม
เกลือ 10 กรัม
วิธีทำ
หั่นรากผักชีและสับปะรดเป็นชิ้นเล็กๆ
ใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงในโถปั่น ปั่นรวมกันให้ละเอียดตามต้องการ
พอปั่นน้ำจิ้มซีฟู้ดเสร็จแล้วชิมรสชาติ และสามารถปรุงรสชาติให้ถูกใจได้อีกทีค่ะ
ขอบคุณสูตรจากแม่สลิ่ม
🎥 fb:waratchanan b. Thanasarp
📷 annamitsu:
เครดิตภาพจาก internet
หม่าล่า
#แจกฟรีสูตร”#หม่าล่า” #แชร์เก็บไว้เลย
… ธุรกิจปิ้งย่าง…ขายง่าย กำไรงาม เผ็ดจนชาลิ้นกินเพลินจนหยุดไม่อยู่
ส่วนผสม
พริกชวงเจียง 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้ง 4 ชิ้น
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 8 กลีบ
ขิง 1 หัว
ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ฮอยซินซอส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อสัตว์หรือผักอะไรก็ได้ที่นำมาหมักกับหม่าล่า
วิธีทำ
1. หั่นเนื้อสัตว์และผักเตรียมไว้ ให้ขนาดพอดีกับไม้ที่จะเสียบ (ชิ้นเล็กยิ่งอร่อยค่ะ)
2. นำพริกขี้หนูแห้ง พริกป่น พริกชวงเจียง พริกไทยดำ กระเทียม ขิง และ ผงพะโล้มาตำรวมกันให้ละเอียด
3. นำส่วนผสมของพริกไปผสมกับฮอยซินซอส ซีอิ๊วขาว น้ำมันมะกอก และ น้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากันเสร็จขั้นตอนของหม่าล่า
4. นำหม่าล่ามาหมักกับเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้เสียบไม้แล้วนำไปแช่ตู้เย็น ส่วนผักไม่ต้องหมักเสียบไม้ได้เลย
5. ตั้งเตารอให้ร้อนนำเนื้อที่หมักมาปิ้งได้เลยส่วนผักให้นำมาปิ้งให้สุกก่อนแล้วค่อยทาด้วยหม่าล่า
6. เสร็จแล้วก็เรียงใส่ถาด อยากกินเท่าไหร่ก็ปิ้งเท่านั้นเลยค่ะ
อ้างอิง food.mthai, ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
🎥 ig:patampatan:
📷 gatay21:
แจกสูตรลูกชิ้นหมูสูตรเด้ง
#แจกสูตรลูกชิ้นหมูสูตรเด้งสำหรับทำขาย #แชร์เก็บไว้เลย
วัตถุดิบ
* เนื้อหมู (ไม่เอามัน) 1000 กรัม
* น้ำเย็น 1/2 ถ้วย
* น้ำตาลทราย 2 ชต.
* ซีอิ้วขาว 3 ชต.
* แป้งข้าวโพด 1 ชต.
* ผงแอกคอท 1 ชต. (ช่วยให้หมูเกาะตัวกันได้ดี)
* พริกไทย 1 ชต.
* เกลือ 1 ชต.
* ผงฟู 1/2 ชต.
วิธีทำ
เริ่มด้วยนำเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปแช่ช่องฟิต ประมาณ 45 นาที หรือจนกว่าจะเริ่มแข็งนิดๆ มีน้ำแข็งเกาะนิดหน่อยนำออกมาปั่นให้ละเอียด
2. ปั่นเสร็จเอาไปแช่ช่องฟิตต่อ ประมาณ 15 นาที ระหว่างรอก็มาทำน้ำปรุงรสลูกชิ้นกัน
3. ใส่น้ำเย็นผสมกับ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย เกลือ แป้งข้าวโพด ผงฟู ตามด้วยผงแอกคอทและพริกไทยป่น ผสมให้เข้ากันให้ส่วนผสมละลาย
4. ต่อไปนำเนื้อหมูที่บดแล้วแช่ไว้มาใส่เครื่องนวด(ถ้าใครไม่มีเครื่องก็ใช้มือนวดได้)
5. ใส่เครื่องปรุงที่เราผสมไว้ลงไปแล้วก็นวดให้เข้ากันจนเหนี่ยวติดกัน (ถ้านวดมือก็ใช้เวลานวดนานหน่อย)
6. จากนั้นเอาไปใส่ในช่องฟิตอีก 45 นาที (ต้องแช่ให้หมูเย็นจัดๆ ลูกชิ้นจะได้เด้งๆ)
7. ต้มน้ำไว้สำหรับลวกลูกชิ้น ไม่ต้องเดือดมากแค่ อุ่น-ร้องพอ
8. หลังจากแช่ 45 นาที เราก็จะมาทำการปั้นเป็นลูกชิ้น แบ่งออกมาจากตู้แช่ที่ละนิด เพื่อให้หมูเย็นอยู่ตลอดเวลา
9. ปั้นลูกชิ้นให้กลมๆ พอดีคำ แล้วก็เอาช้อนที่จุ่มน้ำมาปาด ลูกชิ้นใส่หม้อน้ำต้มที่ต้มไว้
10. โดยลูกชิ้นที่ต้มในน้ำ ต้มไว้ประมาณ 15 นาที ระวังอย่าให้น้ำร้อนหรือเดือดมาก จะทำให้ลูกชิ้นแตก
11. เมื่อต้มครบ 15 นาทีแล้วเราจะตักขึ้น ใส่ในน้ำเย็นจัดทันที เพื่อหยุดความร้อน แล้วรอซัก 3-5 นาทีให้อยู่ในน้ำเย็น
12. จากนั้นเราตักขึ้นจากน้ำเย็นใส่กระชอน ให้สะเด็ดน้ำ แค่นี้เราก็ได้ลูกชิ้นหมูเด้ง เนื้อแน่นๆ พร้อมนำไป ทอด ย่าง นึ่ง หรือประกอบอาหารอื่นๆ ได้เลย
เขียนสูตรอาหาร และรูปภาพโดย: สมาชิก pantip: tukata001
เรียบเรียงโดย :siamarcheep
🎥 dannie_narisaraporn:
📷 bymepimpatcha: benchamatkolberg:
แจกสูตรบาร์บีคิวย่างเสียบไม้
#แจกสูตรบาร์บีคิวย่างเสียบไม้ #แชร์เก็บไว้เลย จะทำไว้ปาร์ตี้สังสรรค์ หรือจะทำขายก็มีดีมีอาชีพ
ส่วนผสมเครื่องปรุง �หมูหั่นยาว 1/2 กิโลกรัม �สับปะรด �หอมหัวใหญ่ �พริกหยวก �มะเขือเทศ �เครื่องปรุงน้ำหมักหมู �เกลือ 1 ช้อนชา �พริกไทยป่น 1 ช้อนชา �ซอสไก่งวง (วูสเตอร์ซอส) 2 ช้อนโต๊ะ �ซอสภูเขาทองฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ �มัสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ �น้ำมันสลัดหรือน้ำมันธรรมดา 2 ช้อนโต๊ะ �น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ �เนย 1 ช้อนโต๊ะ �ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ �น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย �เครื่องปรุงตอนย่าง �เนยสำหรับมาหมู �น้ำทาหมู (ซอสมะเขือเทศ พริกไทย แม๊กกี้ น้ำตาล)*หรือใช้น้ำที่เหลือจากการหมักก็อร่อยดีเหมือนกัน*
วิธีทำ
หั่นหมูชิ้นประมาณนี้ แล้วใส่กล่องพักไว้ เอาเครื่องปรุงน้ำหมักหมูมาใส่รวมกัน คนให้เข้ากันบนเตานะคะ ทิ้งใว้ให้เดือดสักพัก สีจะออกแดงๆ ค่ะ รอให้น้ำหมักเย็น แล้วเอามาราดหมู ขยำๆ แล้วหมักทิ้งไว้อย่างน้อย ๒ ชั่วโมง ชม หรือหมักทิ้งไว้ข้ามคืน (จากการทดลอง ปรากฏว่าหมักข้ามคืนจะอร่อยกว่า 2 ชม. หมูจะนุ่ม ซอสจะเข้าเนื้อกว่าอย่างเห็นได้ชัด) พอถึงเวลาจะทำก็เอาผักที่จะใช้มาหั่น เตรียมเสียบไม้ เวลาเสียบก็แล้วแต่จินตนาการนะคะ ชอบแบบไหนเสียบแบบนั้นเลยค่ะ ก่อนไปย่างก็เตรียมเนยและน้ำซอสที่ทาค่ะ เวลาย่างให้ทาเนยก่อน พอใกล้สุกค่อยเอาซอสทาแล้วย่างอีกซักพักก่อนยกลง ไม่ต้องมีน้ำจิ้มก็อร่อยค่ะ เพราะน้ำหมักเข้มข้นดีอยู่แล้ว ขอให้อร่อยกันทุกท่านนะคะ
ขอบคุณคลิปจาก @adijedh
ขอบคุณภาพจาก @papatsorn_chanpinit @mamae_mae @yamelahz
แจกสูตรขาหมูโบราณสูตรนายคิม
#แจกสูตรขาหมูโบราณสูตรนายคิมสำหรับเปิดร้านขายได้เลย #แชร์เก็บไว้เลย #ทำกินได้ทำขายสร้างอาชีพ
ส่วนผสม
ขาหมูสด ประมาณ8กก 4 ขาหลัง �เครื่องพะโล้ 1 ซอง �คะน้าฮ่องกง 1/2 กก �เม็ดพริกไทแห้ง 1 ช้อนชา �กระเทียมโทน 15 หัว �หอมแดงสด 15 หัว �รากผักชีสด 5 ราก �น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ �ซี่อิ้วขาว 1 ถ้วยตวง �ดอกเกลือ 2 ช้อนชา �ต้นหอมสด 2 ขีด �ผักชีสด 1 ขีด �น้ำมันพืช สำหรับทอด 1 ขวด �ซี่อิ้วดำ 1/2 ถ้วยตวง �น้ำกระเทียมดอง 2 ถ้วย �น้ำสะอาด 4 ลิตร �เห็ดหอมแห้ง 20 ดอก
วิธีทำ
นำขาหมูมาทอดแล้วพักไว้ นำหอมแดง กระเทียมมาซอยแล้วนำไปทอดแล้วพักไว้นำไปบดให้ละเอียด รากผักชีนำมาตำให้แตก แล้วนำไปห่อในผ้าขาวบาง รวมกับกระเทียมดองพริกไทเม็ดนำมาห่อมัดรวมกัน นำขาหมูมาเรียงใส่หม้อใส่เครื่องตุ๋นที่เตรียมลงไปตามด้วยซี่อิ้ว น้ำกระเทียมดอง เกลือน้ำตาลปีบ เห็หอมแห้งแช่น้ำแล้ว ต้มด้วยไฟแรงพอเดือดใช้ไฟกลางใช้เวลาในการต้ม1-2ซมหรือสุกได้ที่ไม่เหนียวหรือเปลื่อยเกินไป ลวกผักคะน้าฮ่องกง ไว้กินกับพริกขี้หนูสวน กระเทียมโทน ต้นหอม ผักชี นำขาหมูมาหั่นใส่จาน ทั้งเนื้อ และคาดิใส่จานเป็นอันพร้อมเสริพ
ขอบคุณสูตรจาก คุณkim
ขอบคุณคลิปจาก ig @ellemes
ขอบคุณภาพจาก ig @phuttisak_thawaro @aya5666 @paris189 chakkrit.tom: sara_kim_au: deliciously_meena
แจกสูตร น้ำยำเทวดาสารพัดนึก
#แจกสูตร “#น้ำยำเทวดาสารพัดนึก” #แชร์เก็บไว้เลย
เก็บได้นาน ทำขายก็ได้ ยำกับอะไรก็อร่อย
ส่วนผสม
1. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
7. ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
8. พริกแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ
9. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
10. ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นำภาชนะมาตักน้ำเปล่าใส่ 2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
3. บีบน้ำมะนาวใส่ 6 ช้อนโต๊ะ
4. กลมกล่อมด้วยน้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
5. หวานหอมด้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสมะเขือเทศเป็นเคล็ดลับ…น้ำยำเทวดา เพื่อช่วยสร้างสีสรรค์ให้
7. อาหารทุกชนิด สีสด สวย 1 ช้อนโต๊ะ
8. ผงปรุงรส…จะใส่หรือไม่ใส่..ก็ได้ เพราะไม่เน้น
9. ใส่กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
10. ตามด้วยพริกสับ 2 ช้อนโต๊ะ ถ้า 3 ช้อนโต๊ะใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
11. เปิดไฟใช้ความร้อนปานกลาง เคี่ยวส่วนผสม พอน้ำยำเดือดจับเวลา 2 นาที
12. ต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา กลัวเดือดฟู …ล้นภาชนะ
13. ปิดไฟใช้ได้แล้ว ”น้ำยำ เทวดา สารพัดนึก“
รอให้เย็นสักพัก เทใส่ขวดนำ เข้าตู้เย็นเก็บไว้ใช้
เคล็ดลับปรุงน้ำยำ
ควรใช้มะนาวแท้ ที่สำคัญที่สุด ขอให้เป็นมะนาวแท้ๆ เป็นลูกๆ จะอร่อยว่ามะนาวเทียม หรือน้ำส้มสายชู
ที่มา : pantown
🎥 pattybaew:
เครดิตภาพจาก internet
แจกสูตรไก่ชุบแป้งทอดแป้งหมักไก่
#แจกสูตรไก่ชุบแป้งทอดแป้งหมักไก่ หรือ ที่เราอาจเรียกสั้นๆ ว่าไก่ทอด เป็นอาหารจานโปรดที่อร่อย แถมยังทำทานเองก็ดี ทำเป็นอาชีพก็ได้อีกต่างห่าง
ในวันนี้เราจะมานำเสนอ สูตรไก่ชุบแป้งทอด 2 แบบ นั้นคือ:
1) ไก่ชุบแป้งทอด แบบใช้แป้งแห้ง (คล้ายๆ แบบ KFC)
และ
2) ไก่ชุบแป้งทอด แบบใช้แป้งข้น (แบบที่ขายในตลาดทั่วไป)
เรามาดูสูตรกันเลยดีกว่า
ส่วนผสม:
1. ไก่สด จะเป็นส่วนน่อง ปีก อก หรือตะโพก แล้วแต่ชอบ 1 กิโล
2. แป้งทอดกรอบ 1 ซองใหญ่
3. กระเทียมป่น 2 ช้อนโต๊ะ
4. ผงปรุงรสไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 2 ช้อนชา
6. พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
7. ผงปาปริก้า 2 ช้อนชา (ใช้พริกป่นละเอียดแทนก็ได้)
8. ไข่ 1 ฟอง
9. น้ำปูนใส (ปูนแดงสำหรับทานกับหมากผสมน้ำให้ตกตะกอน แล้วรินเฉพาะส่วนน้ำใสๆ)
วิธีทำ:
1. นำไก่ที่ล้างสะอาดสะเด็ดน้ำแล้วใส่ชามใบใหญ่ ใส่กระเทียมป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา ผงปาปริก้า 1 ช้อนชา แล้วขยำคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ส่วนผสมเข้าเนื้อ
2. เตรียมแป้งสำหรับเคลือบไก่ มี 2 แบบ
* แบบแป้งแห้ง: ใส่แป้งในชาม ใส่ส่วนผสมที่เหลือจากการหมักลงไปผสมในแป้ง คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตอกไข่ไว้ในชามอีกใบ ตีให้ฟูเล็กน้อย
* แบบแป้งข้น: ใส่แป้งในชาม ใส่ส่วนผสมที่เหลือจากการหมักลงไปผสมในแป้ง คนส่วนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำปูนใสลงในแป้ง ให้แป้งข้นไว้เพื่อเวลาชุบจะได้ติดเนื้อไก่ได้ดี (น้ำปูนใสทำให้แป้งกรอบ)
3. นำไก่ที่หมักได้ที่มาเคลือบแป้งที่เตรียมไว้
* แบบแป้งแห้ง: เทไข่ลงไปในไก่ที่หมักไว้ เคล้าให้ทั่ว หยิบไก่ทีละชิ้นลงคลุกในแป้ง โกยแป้งใส่เนื้อไก่ขยำคลุกเคล้าไปมาจนแป้งติดทั่ว หยิบชิ้นไก่ค่อยๆ เขย่าแป้งส่วนเกินออก แล้ววางไว้บนจานหรือตะแกรง นำลงทอดในน้ำมันร้อนจัด(น้ำมันควรให้ท่วมชิ้นไก่) เมื่อใส่เต็มพอดีกระทะแล้ว ลดไฟ ให้น้ำมันร้อนพอดี อย่าให้ร้อนจัด มิฉะนั้นไก่อาจไหม้โดยที่เนื้อด้านในยังไม่สุก ทอดจนเหลือง (เวลาทอดอย่าพลิกไปมาบ่อยๆ จะทำให้เนื้อไก่ด้าน) เวลาไก่สุกไก่จะลอยขึ้น ก่อนตักไก่ขึ้น ให้เปิดไฟแรงอีกครั้งแล้วค่อยตักไก่ขึ้น เพื่อไก่จะได้ไม่อมน้ำมัน
แบบแป้งข้น: นำไก่ที่หมักไว้ลงชุบให้แป้งเคลือบติดทั่ว หยิบลงทอดในน้ำมันร้อนจัด(น้ำมันควรให้ท่วมชิ้นไก่) เมื่อใส่เต็มพอดีกระทะแล้ว ลดไฟ ให้น้ำมันร้อนพอดี อย่าให้ร้อนจัด มิฉะนั้นไก่อาจไหม้โดยที่เนื้อด้านในยังไม่สุก ทอดจนเหลือง (เวลาทอดอย่าพลิกไปมาบ่อยๆ จะทำให้เนื้อไก่ด้าน) เวลาไก่สุกไก่จะลอยขึ้น ก่อนตักไก่ขึ้น ให้เปิดไฟแรงอีกครั้งแล้วค่อยตักไก่ขึ้น เพื่อไก่จะได้ไม่อมน้ำมัน
หมายเหตุ: ไก่ชุบแป้งทอดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นรสชาติอย่างอื่นได้ เช่นใส่ผงต้มยำก็จะได้ไก่ทอดรสต้มยำ เป็นต้น
ที่มาfood story
🎥nan_prajakjang:
เครดิตภาพจากinternet
ภาพและวีดีโอเป็นเพียงส่วนประกอบ
แจกสูตรนำ้จิ้มลูกชิ้นสูตรมะขามเปียก
#แจกสูตรนำ้จิ้มลูกชิ้นสูตรมะขามเปียก #แชร์เก็บไว้เลย
ทำขายได้สร้างอาชีพหลักหมื่นหลักแสนต่อเดือน
วัตถุดิบนำ้จิ้มลูกชิ้นรสเด็ด
1. น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 150 กรัม (1/2 ถ้วย)
2. น้ำเปล่า 300 กรัม (1 ¼ ถ้วย)
3. พริกสดแดง 7 เม็ด
4. กระเทียมดอง 2 หัว
5. กระเทียมสด 8 กลีบใหญ่
6. น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลปึก 100 กรัม (ประมาณ 7 ช้อนโต๊ะ)
8. น้ำตาลทราย 150 กรัม (3/4 ถ้วย)
9. คอร์น ไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ (น้ำตาลจากแป้งข้าวโพดครับ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์)
10. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีให้ใช้แป้งมันแทนก็ได้ครับ)
11. น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
11. พริกขี้หนูคั่วป่น 1 ช้อนชา
12. เกลือ 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำนำ้จิ้มลูกชิ้นรสเด็ด
1. โขลกหรือปั่นพริกสด กระเทียมดอง และกระเทียมสด ให้ละเอียดพอดี ๆ แล้วพักไว้ครับ
2. นำน้ำมะขามเปียก น้ำเปล่า น้ำตาลปึก น้ำตาลทราย และน้ำกระเทียมดอง เทใส่หม้อซอสขนาดกลาง จากนั้นนำไปต้มด้วยไฟระดับกลางไปหาสูง นิดๆ
ต้มเคี่ยว ไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายดี
พอน้ำตาลละลายดีแล้ว ก็ยังเคี่ยวต่อ ๆ ไป เพื่อให้น้ำซอสข้นยิ่งขึ้น หมั่นคนเป็นระยะ แต่ไม่จำเป็นต้องคนตลอดเวลา
พอเดือดได้ที่จะใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที
3. เอาพริกสดที่โขลกหรือปั่นกับกระเทียมสด และกระเทียมดอง ในขั้นตอนที่ 1 ลงไปในหม้อ
ช่วงนี้เร่งไฟให้แรงขึ้น จะช่วยให้กลิ่นเหม็นเขียวของพริกสดหายไป จากนั้นเคี่ยวต่อไปไปประมาณ 3 นาที กะเวลาให้กระเทียมสุก
ช่วงนี้เราก็คนให้เข้ากันตลอดเวลา
4. ลดไฟเหลือขนาดกลาง ๆ ใส่คอร์นไซรัปลงไป คนส่วนผสมตลอดเวลา น้ำซอสจะเริ่มเหนียวๆ จากนั้นคนต่อไปซัก 2 นาที
5. ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป เพื่อเสริมความข้นอีกแรง คนต่อไปอีกซีก 2 นาที
6. ใส่เกลือลงปรุงไป 1 ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากัน
7. ลดไฟเป็นอ่อน ๆ ใส่พริกป่นลงไป 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วชิมรส
ทิ้งให้น้ำจิ้มเย็นลงซักครู่ ก็เทใส่ขวดโหลสำหรับจะนำไปขาย หรือเก็บไว้รับประทานเองครับ
เสร็จแล้วเราก็จะได้น้ำจิ้มลูกจิ้นรสเด็ดไว้ทานกับลูกชิ้นสุดอร่อย และทำขายสร้างรายได้ ครั้งหน้าเราจะนำสูตรการทำลูกชิ้นสุดเด้งมาฝากเพื่อนๆ กันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลสูตรอาหาร โดยคุณ Tristy สมาชิกบนเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
🎥ig:vjize:
แจกสูตรหมูสะเต๊ะสูตรชาววัง
#แจกสูตรหมูสะเต๊ะสูตรชาววัง #แชร์เก็บไว้เลย
#สร้างอาชีพหลักและเสริมที่น่าสนใจ
การเลือกเนื้อหมูควรเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันใน เพราะจะเป้นส่วนที่นุ่มรสชาติดีที่สุด ควรสั่งแม่ค้าไว้ถ้าหั่นดีๆ เนื้อหมู 1 กิโล จะสามารถเสียบได้ประมาณ 120- 130 ไม้เลยทีเดียว ผู้ทำต้องหัดทำดูจะเกิดความชำนาญเอง
การหมักหมูสะเต๊ะ
ในการหมักหมูสะเต๊ะนั้นน้ำหมักหมู จะเป็นหัวใจสำคัญหมูจะนุ่มอร่อยขึ้นอยู่กับขั้นตอนการหมักหมูนี่ล่ะ ต้องมีสูตรน้หมักหมูที่เป็นสูตรเฉพาะ
สูตรน้ำหมักหมูสะเต๊ะ/ หมู 1 กก.
มะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม
ผงกะหรี่ 7 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
สีเหลืองผสมอาหาร 1 ซอง
นมข้นจืด 1/4 กระป๋อง
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
** สูตรนี้เป็นแนวทาง อาจจะปรับเพิ่มหรือลดลง ตามความชอบ **
วิธีการทำน้ำหมักหมูสะเต๊ะ
1.เริ่มจากการคั้นกะทิแยกหัว-หาง นำหัวกะทิตั้งไฟปานกลาง ตักหางกะทิทีแยกไว้เติมลงไปบ้าง ใช้ไม้พายคนให้กะทิเดือด 1 ครั้ง แล้วดับไฟ ไม่ต้องให้กะทิแตกมัน
2.จากนั้นให้ใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา ผงกะหรี่ สีผสมอาหาร นมข้นจืด คนให้เข้ากันดี
3.นำหมูทื่หั่นไว้ มาหมักในน้ำหมัก คลุกเคล้าด้วยมือเบาๆ ให้เข้ากันดี
4.นำหมูที่หมักแล้ว เข้าไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาๆ 3 ชัวโมง
5.พอหมักได้ที่ ครบ 3 ชั่วโมง ให้นำหมูออกมาเสียบไม้ และเรียงหมูสะเต๊ะใส่ถาดไว้โห้เรียบร้อย
6.ขั้นตอนต่อไปให้นำหมูที่เสียบไม้แล้วแช่ไว้ในช่องฟรีชอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
****
หมูหมัก ถ้าวางด้านล่างตู้เย็นต้องเร่งความเย็นเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหมูเขียว หมูหมักทีแช่ไว้ในช่องฟรีซ เวลาจะนำออกมาปิ้งขายก็ละลายน้ำแข็งก่อน
หมูหมักที่แช่ไว้ในช่องฟรีซ สามารถเก็บไว้ได้นาน 3 เดือน โดยทีรสชาติไม่เปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว น้ำหมักหมูสะเต๊ะก็เช่นเดียวกันหากนำใส่ขวดแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาสามารถเก็บไว้ได้ 3 เดือน
เวลาจะใช้ห้ามนำไปอุ่นไฟเด็ดขาด เพียงแต่นำมาคนๆ ให้ตะกอนเข้ากันใช้ได้แล้ว และเวลาใช้ให้ราดพอชุ่มเพราะหมูสันในจะนุ่มอยู่แล้วพอราดน้ำหมักเข้าหมูจัดูดน้ำหมักเข้า
**เคล็ดลับ**
การนำหมูที่หมักแล้วมาใส่ช่องฟรีซเอาไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จะทำให้เนื้อนุ่ม และเครื่องปรุงรสต่างๆชึมซับเข้าไปในเนื้อหมูสะเต๊ะได้ดี เหตุฑิ
และจะทำให้หมูมีความหนืด เสียบไม้ได้ง่ายๆอีกด้วย
สูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ สูตรนี้ใช้กับหมู 1,000 ไม้
สำหรับสูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะนั้นมีดังนี้
มะพร้าวขูด 5 กก.
น้ำตาลปิ๊บ 1.5 กก.
น้ำปลา 1/2 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยน้ำพริกหมูสะเต๊ะ 0.5 กก.
ถั่วลิสงคั่ว 0.5 กก.
ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
1.นำมะพร้าวมาคั้นแยกหัวกะทิ และหางกะทิ แล้วนำหัวกะทิตั้งไฟเคี่ยวใช้ไฟแรง คนไปทางเดียวตลอดรอจนกะทิแตกมัน ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ ถ้าไหม้ให้เปลี่ยนหม้อทีใช้เคี่ยวเลย เพราะจะทำให้น้ำจิ้มที่ได้มีกลิ่นเหม็นไหม้
2.แยกเปลือกถั่วลิสงออก และน้ำถั่วมาปั่นรวมกับหางกะทิจนละเอียดเป็นน้ำนม จากนั้นนำส่วนผสมมาใส่ในหม้อเคี่ยวกะทิ และเคี่ยวต่อให้แตกมัน
3.ใส่น้ำตาลปี๊บ คนจนน้ำตาลละลาย ใส่น้ำปลา น้ำส้มสายซูลงไป
4.ใส่น้ำพริกหมูสะเต๊ะลงไปแล้วคนจนละลายหมด ช่วงนี้ควรใช้ไฟแรง เพื่อให้น้ำพริกละลายหมดและแตกมันลอยขึ้นมา จากนั้นค่อยปรับใช้ไฟอ่อน คนเบาๆไปเรื่อยๆ จนได้ที่จึงปิดไฟ
*** การเก็บรักษาน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ โดยการใส่ขวดปิดฝาให้ดี แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเก้บไว้ได้นาน 3 เดือน
ส่วนผสมอาจาด
น้ำตาลทราย 2 กก.
เกลือป่น 1 ถุง
น้ำส้มสายชู 1 ขวด
แตงกวาหั่น
หอมแขกหั่น
พริกชี้ฟ้าเหลือง แดงซอย
วิธีทำ
ก็นำส่วนผสมทั้ง หมดมาผสมกันแล้ว ตั้งไฟปานกลาง คนให้น้ำตาลละลาย แล้วปล่อยให้เดือด 1 ครั้งปิดไฟ ปรุงรสให้ถูกใจ
การปิ้งหมูสะเต๊ะให้อร่อย
- เตรียมเตาปิ้งให้พร้อม จะเป็นเตาอะลูมิเนียมหรือเตาเหล็กก็ได้เอาให้ขนาดพอดี กะว่าปิ้งได้ครั้งละ 30 ไม้ กำลังเหมาะสม
- ถ่านที่ใช้ ควรเป็นไม้โกงกาง ให้ความร้อนได้ดีกว่าถ่านไม้อื่นๆ และจะทำให้หมูสะเต๊ะมีกลิ่นหอมมากกว่าถ่านไม้อย่างอื่น
- เวลาปิ้งหมูสะเต๊ะ เมื่อนำหมูวางบนเตาให้พรมกะทิให้ชุ่มๆทันที เพื่อป้องกันหมูสะเต๊ะแห้งเกินไป หรือจะพรมตลอดก็ได้
- พอพรมกะทิเสร็จ ต้องกลับหมูสะเต๊ะทันที ไม่งั้นจะไหม้ได้ และควรพลิกทีเดียวหลายๆ ไม้พร้อมๆกัน
- เมื่อเห็นหมูสะเต๊ะเปลี่ยนสีแสดงว่าสุกพอดีแล้ว อย่าให้สุกมาก จะแห้งเกินไปไม่น่าอร่อย
***รสชาติความอร่อยและความหอมอาจจะอยู่ที่การปิ้งด้วยเตาถ่าน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
🎥 bonniedresspresso:
📷 ch.w.a.t: eye_indyy:
แจกสูตรไอศครีมไอติมกะทินมสด (สำหรับใช้เครื่องปั่น) ทำกินได้ทำขายมีอาชีพ
#แจกสูตรไอศครีมไอติมกะทินมสด (สำหรับใช้เครื่องปั่น) ทำกินได้ทำขายมีอาชีพ #แชร์เก็บไว้เลย
ต่อไปจะเป็นวิธีการทำไอติมกะทินมสด โดยใช้เครื่องปั่นผสมอาหารนะครับ เพื่อทำให้เนื้อไอติมเนียนนุ่มกว่าเดิม และไม่เหนื่อยด้วยครับ สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่มีเครื่องนี้อยู่แล้ว ก็ลองหยิบขึ้นมาหัดทำไปพร้อมๆ กันได้เลยนะครับ
วัตถุดิบส่วนผสม
* วิปครีม 300 กรัม
* น้ำตาลทรายขาว 150-200 กรัม (แล้วแต่ชอบความหวานเพิ่มลดตามต้องการ)
* นมข้นจืด 150 กรัม (1 กระป๋องเล็กที่วางขายทั่วไป)
* หัวกะทิสด 150 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* หากชอบกลิ่นก็ใส่ตามชอบ หรืออยากใส่ผลไม้ก็ตามชอบครับ
วิธีทำไอศครีม-ไอติมกะทินมสด
* นำวิปครีมและน้ำตาล เกลือป่น ผสมรวมกันและตีปั่นจนเป็นครีมข้นหรือตั้งยอด
* เติมกะทิและนมลงไป ตีปั่นต่อ (หากไม่เมื่อยมากหรือมีเครื่องก็ตีจนเป็นครีมได้ยิ่งดี)
* ปิดทับด้วยพลาสติดยืด แล้วนำไปแช่เย็นช่องแข็ง จนกลายเป็นน้ำแข็งประมาณ 90-95%
* นำมาตีปั่นอีกครั้ง ให้เนื้อไอศครีมฟู ๆ ยิ่งมากยิ่งดี แล้วเทใส่กล่อง หรือภาชนะที่ต้องการจะเก็บ แล้วปิดทับด้วยกระดาษไข หรือพลาสติก แล้วแช่เย็นจนแข็ง
หมายเหตุ :
* หากจะใส่ผลไม้หรืออย่างอื่น ให้ใส่ขั้นตอนสุดท้าย
* การตีปั่น อาจจะทำมากกว่า 2 ครั้งก็ได้ คือตอนแข็ง 80-85% และ 90-95 % ก็ได้ครับ การนำมาตีปั่นรอบสุดท้ายจะทำให้เนื้อไอศครีมนุ่มครับ
* หากมีเครื่องทำไอศครีมก็ ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันเลยครับ ไม่ต้องแบ่งตีปั่นแบบสูตรนี้
* หากไม่มีเครื่องปั่นแบบในรูป ก็ปั่นหรือตีด้วยมือครับก็ใช้ได้ครับแต่จะเมื่อยหน่อย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับวิธีทำไอติมกะทินมสดทานเองแบบง่ายๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบกินไอติมหากมีเวลาว่างก็อย่าลืมนำสูตรนี้ไปหัดทำกินเองด้วยนะครับ ไม่ต้องกลัวอ้วนเพราะในไอติมกะทินมสด 1 ถ้วย มีเพียง 150 กิโลแคลอรี่เท่านั้นเองครับ
ที่มาเขียนสูตรอาหาร : คุณ คริษฐ์ เกตุแค ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน
🎥 icecreamkatisod:
📷 aroiwithgiant: nontaleepeem say_saxy:
แจกสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวน้ำซุปกระดูกหมูรสเด็ด
#แจกสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวน้ำซุปกระดูกหมูรสเด็ด #แชร์เก็บไว้เลย
ก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยและขายดีน้ำซุปคือตัวสำคัญเป็นอย่างมาก ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ สูตร1" รสเด็ด
"วัตถุดิบและส่วนประกอบก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำมีดังนี้..."
1. เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆตามชอบ 2. หมูบดปรุงรส 3. หมูสับกับกระเทียมและพริกไทย 4. ลูกชิ้นหมูอย่างดี
5. ไส้อ่อนหมู (นำไปต้มให้เปื่อย) 6. ฮือก้วยปลาเส้นทอด 7. ตับหมูต้มหั่นเป็นชิ้นบางๆ (แต่วันนี้ไม่ได้ใส่)
8. ตังฉ่าย 9. กระเทียมเจียวกับกากหมู 10. พริกไทยป่น 11. ถั่วงอก 12. ต้นหอม 13. ผักชี
"การเตรียมวัตถุดิบ"
1. ล้างฮือก้วยให้สะอาด จากนั้นทอดฮือก้วยให้เหลืองหอมอีกครั้ง เพื่อขจัดกลิ่นหืนและฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาจากตลาดสด
2. ทอดเสร็จแล้วจึงหั่นฮือก้วยให้เป็นชิ้นบางพอคำ พักไว้
3. ปั้นหมูสับกับกระเทียมพริกไทยให้เป็นก้อน นำลงต้มในน้ำเดือด พอสุกจึงตักขึ้นพักไว้ (ก่อนนำลงต้ม ให้เคล้าซีอิ้วขาวสักเล็กน้อย)
4. ต้นหอมและผักชีก็นำมาซอยหยาบๆรอไว้
วัตถุดิบและเครื่องปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวมีดังนี้...
1. กระดูกคาตั๊ง 1 ก.ก.
2. หัวไชเท้าปอกเปลือกตัด 4 ท่อน 1 หัว
3. หัวหอมใหญ่ปอกเปลือกออก 1 หัว
4. รากผักชีตีพอแตก 30 กรัม
5. พริกไทยเม็ดบุบพอแตก 5 กรัม
6. เก๋ากี้ 5 กรัม
7. ฮวยซัว 10 กรัม
8. เก๋ากี๋ 5 กรัม
9. เง็กเต็ก 5 กรัม
10. เครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำใส 1 ห่อ
11. กระเทียมดอง 7 หัว
12. น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วยตวง
13. เกลือปรุงทิพย์ 2 ช.ต.
14. น้ำตาลมะพร้าวแท้ 150 กรัม
15. ซอสแม็กกี้ 3 ช.ต.
16. ซีอิ้วขาวสูตร 5 จำนวน 10 ช.ต.
17. น้ำเปล่า 10 ลิตร
วิธี"การปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยว"
1. นำน้ำเปล่าใส่หม้อขึ้นตั้งบนเตาไฟให้เดือด
2. เติมเกลือป่นลงไป ตามด้วยรากผักชี พริกไทยเม็ด หัวไชเท้า หัวหอมใหญ่ทั้งหัว เก๋ากี้ เง็กเต็ก ฮวยซัว
หัวกระเทียมดอง น้ำกระเทียมดอง และห่อเครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำใส
3. พอเดือดจึงค่อยๆใส่กระดูกคาตั๊งลงไปแล้วหรี่ไฟอ่อน ปิดฝาหม้อและต้มให้นาน 1/2 ช.ม.ขึ้นไป หากมีฟองให้ค่อยๆช้อนฟองออก
4. ปรุงรสด้วยซอสแม็กกี้ ซีอิ้วขาว และน้ำตาลมะพร้าว ชิมดูให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ
ส่วนผสมการปรุงน้ำต้มยำมีดังนี้...
1. ถั่วลิสงคั่วป่น 2. น้ำพริกเผาฉั่วฮะเส็ง 3. น้ำมะนาว
4. น้ำตาลทราย 5. น้ำปลาทิพรส 6. พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น
การปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ...
1. ลวกถั่วงอกและเส้นใส่ลงในชาม
2. แล้วจึงปรุงรสต้มยำด้วยการใส่ น้ำตาลทราย 3 ช.ช. น้ำปลา 2 ช.ช. น้ำมะนาว 3 ช.ช. พริกป่น 1/2 ช.ช.
น้ำพริกเผา 1/2 ช.ต. ถั่วลิสงคั่วป่น 1 ช.ต. ใส่ตังฉ่ายและกระเทียมเจียวกากหมูเล็กน้อย โรยต้นหอมผักชีตามชอบ
จากนั้นจึงตักน้ำซุปเดือดๆหรือร้อนจัดๆใส่ลงไป 1 ถ้วยตวง
3. หั่นไส้อ่อนต้มใส่ลงไป ตามด้วยตับหมูต้ม ลูกชิ้นหมูลวกสุก หมูสับปั้นก้อน
หมูบดปรุงรสลวกสุก และฮือก้วย โรยพริกไทยป่นเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมกับเกี๊ยวทอดกรอบๆ
...
หมายเหตุเคล็ดลับดีที่ควรทราบ
ซึ่งเครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำใสจะแตกต่างจากเครื่องตุ๋นและเครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำข้น ก็ตรงที่จะไม่มีเครื่องเทศจำพวกลูกกระวาน ใบกระวาน อบเชย และโป๊ยกั๊กค่ะ แต่จะมีพวกเครื่องยาจีนจำพวกเห็ดหอมแห้ง เก๋ากี้ เง็กเต็ก ฮวยซัว ติดมากับห่อเครื่องเทศในผ้าขาวบางอย่างละเล็กละน้อย
ซึ่ง เก๋ากี้ เง็กเต็ก ฮวยซัว นั้น เราจะต้องมาเพิ่มเอาเองให้ได้ปริมาณตามสูตรน้ำก๋วยเตี๋ยวที่แอดมินให้ไป น้ำก๋วยเตี๋ยวจึงจะหอม และพิเศษกว่าน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวทั่วๆไป
และถ้าใครอยากจะห่อเครื่องเทศเอง ก็ให้ใช้
ลูกผักขีประมาณ 3/4 ช.ต. ข่าแก่สับตากแห้ง ประมาณ 3/4 ช.ต. กับพริกไทยขาวปริมาณตามสูตรผสมเข้าด้วยกัน นำไปห่อด้วยผ้าขาวบางมัดด้วยด้ายให้แน่น ใช้สำหรับต้มน้ำซุปก๋วยเตี่ยวน้ำใส
ขอบคุณข้อมูลสูตรก๋วยเตี๊ยว โดย...แอดมินเนรัญชลา จากเฟสบุ๊ค ที่มาจากพันทิป
เครดิต🎥pomegraa
📷ig rooster_1982 muk_lakkana
ภาพและวีดีโอเป็นเพียงส่วนประกอบนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)